ทุน ปตท. คัดนักเรียนม.ปลายเรียนต่อป.ตรี ต่างประเทศ

ทุน ปตท
ทุน ปตท

ด้วยบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. ขอความร่วมมือจากสำนักงาน ก.พ. ให้ดำเนินการสอบแข่งขันเพื่อรับทุนบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)  ประจำปี 2556 (ทุนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย) ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 13 (9) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 และระเบียบ ก.พ.ว่าด้วยทุนของรัฐบาล พ.ศ. 2551 จึงประกาศรับสมัครสอบแข่งขันพร้อมทั้งกำหนดหลักสูตรและวิธีการสอบแข่งขันเพื่อรับทุนดังกล่าว ดังต่อไปนี้

1. ทุนที่รับสมัครสอบ จำนวน ๒ หน่วย รวม 4 ทุน
2. ข้อผูกพันในการรับทุน
2.1 ผู้ได้รับทุนจะต้องกลับมาปฏิบัติงานกับบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 2 เท่าของระยะเวลาที่ได้รับทุน
2.2 กรณีที่ผู้ได้รับทุนไม่เข้าปฏิบัติงานชดใช้ทุนตามสัญญาที่ได้ทำไว้กับบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) นอกจากจะชดใช้เงินทุนที่ได้จ่ายไปแล้วทั้งสิ้น ยังจะต้องชดใช้เงินอีก 2 เท่าของจำนวนเงินทุนดังกล่าวให้เป็นเบี้ยปรับอีกด้วย

3. คุณสมบัติของผู้มีสิทธิสมัครสอบ
ผู้มีสิทธิสมัครสอบต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้
3.1 มีคุณสมบัติทั่วไปและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบ
ข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ยกเว้นในกรณีเรื่องอายุตาม ก. คุณสมบัติทั่วไป (2) ของมาตรา 36 นี้ ผู้สมัครมีอายุต่ำกว่า 18 ปี ได้
3.2 มีอายุไม่เกิน 20 ปี นับถึงวันที่ 26 กันยายน 2555
3.3 กำลังศึกษาอยู่ในปีสุดท้ายของหลักสูตรประโยคมัธยมศึกษาตอนปลาย ประจำปีการศึกษา 2555 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ของกระทรวงศึกษาธิการ หรือหลักสูตรอื่นที่กระทรวงศึกษาธิการรับรองว่าเทียบเท่า โดยได้คะแนนเฉลี่ยสะสมในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายรวมทุกภาคการศึกษาที่ผ่านมาไม่ต่ำกว่า 3.50 (ในระบบการวัดผลที่คิดคะแนนให้ A=4, B=3, C=2, D=1, E หรือ F=0)
3.4 ผู้สมัครสอบที่มีคะแนนเฉลี่ยสะสมรวมทุกภาคการศึกษาที่ผ่านมาไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ จะต้องมีหนังสือรับรองผลการเรียนจากสถานศึกษามาแสดงว่าเป็นผู้มีผลการเรียนเทียบเท่ากับผลการเรียนที่กำหนดไว้ หากผู้ใดไม่มีหนังสือรับรองผลการเรียนมาแสดง จะถือว่าไม่มีสิทธิในการสมัครสอบครั้งนี้
3.5 มีศีลธรรม และความประพฤติดี
3.6 ไม่อยู่ในระหว่างการรับทุนที่มีสัญญาผูกพันในการปฏิบัติงานชดใช้ทุนใด ๆ
3.7 ผู้สมัครสอบผู้ใดไม่มีคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้าม ไม่มีสิทธิเข้าสอบหรือได้รับทุน

4. การรับสมัครสอบ
4.1 ผู้ประสงค์จะสมัครสอบ ดูรายละเอียดได้ที่ศูนย์ข่าวสำนักงาน ก.พ. ถนนติวานนท์ ซอย 4  ตำบลตลาดขวัญ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี และทางอินเทอร์เน็ต พร้อมทั้งสามารถพิมพ์แบบฟอร์มที่ใช้ในการ  สมัครสอบได้ใน เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.พ. ที่ http://www.ocsc.go.th, http://scholar2.ocsc.go.th และเว็บไซต์ของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่ http://stscholar.nstda.or.th
4.2 กำหนดวันรับสมัครสอบ และวิธีการสมัคร
4.2.1 ผู้ประสงค์จะสมัครสอบ สมัครได้ตั้งแต่วันที่ 12 – 26 กันยายน 2555 ทางอินเทอร์เน็ตตลอด 24 ชั่วโมง ไม่เว้นวันหยุดราชการ ตามขั้นตอนดังนี้
(1) เปิดเว็บไซต์ http://scholar2.ocsc.go.th
(2) กรอกข้อความให้ถูกต้องและครบถ้วน ปฏิบัติตามขั้นตอนที่กำหนด ระบบจะออกเลขประจำตัวสอบและแบบฟอร์มการชำระเงินผ่านเคาน์เตอร์ บมจ. ธนาคารกรุงไทย ให้โดยอัตโนมัติ
(3) พิมพ์ใบสมัครและแบบฟอร์มการชำระเงินลงในกระดาษขนาด A๔ จำนวน 3 แผ่น หรือ หากไม่มีเครื่องพิมพ์ในขณะนั้น ให้บันทึกข้อมูลเก็บไว้ในรูปแบบ File ลงในสื่อบันทึกข้อมูล เช่น  Diskette เป็นต้น  ในกรณีที่ไม่สามารถพิมพ์ใบสมัครหรือบันทึกข้อมูลได้ ผู้สมัครสามารถเข้าไปพิมพ์ใบสมัคร หรือบันทึกข้อมูลลงในสื่อบันทึกข้อมูลใหม่ได้อีก แต่จะไม่สามารถแก้ไขข้อมูลในการกรอกใบสมัครในครั้งแรกที่สมบูรณ์แล้วได้
4.2.2 นำแบบฟอร์มการชำระเงิน ไปชำระเงินเฉพาะที่เคาน์เตอร์ บมจ.ธนาคารกรุงไทยทุกสาขาทั่วประเทศ ชื่อบัญชี “ค่าธรรมเนียมสอบทุนของ ก.พ.” ตั้งแต่วันที่ 12 – 27 กันยายน 2555 ภายในเวลาทำการของธนาคาร การรับสมัครสอบจะมีผลสมบูรณ์ เมื่อชำระค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบแล้ว
4.2.3 ค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบประกอบด้วย
(1) ค่าธรรมเนียมสอบ หน่วยละ 100 บาท
(2) ค่าธรรมเนียมธนาคารรวมค่าบริการทางอินเตอร์เน็ต จำนวน 30 บาท ค่าธรรมเนียมฯ จะไม่จ่ายคืนให้ไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น
4.2.4 ผู้สมัครสอบสมัครได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น
4.2.5 การสมัครสอบตามขั้นตอนข้างต้น ถือว่าผู้สมัครเป็นผู้ลงลายมือชื่อ และรับรองความถูกต้องของข้อมูลดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 และ พ.ศ. 2551 ดังนั้น  หากผู้สมัครจงใจกรอกข้อมูลอันเป็นเท็จ อาจมีความผิดฐานแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 137
4.3 เอกสารและหลักฐานที่ต้องยื่นในวันสอบข้อเขียน
(1) ใบสมัครที่พิมพ์จากอินเทอร์เน็ต ติดรูปถ่ายหน้าตรง 1 x 1.5 นิ้ว ไม่สวมหมวก ไม่สวมแว่นตาดำ ถ่ายไว้ไม่เกิน 1 ปี นับถึงวันที่ 26 กันยายน 2555 ลงลายมือชื่อในใบสมัครให้ครบถ้วน
(2) สำเนาระเบียนแสดงผลการเรียนรวมทุกภาคการศึกษาที่ผ่านมาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จำนวน 1 ชุด
(3) หนังสือรับรองความประพฤติและความเหมาะสมในการสมัครรับทุนจากครูใหญ่อาจารย์ใหญ่ หรือผู้อำนวยการโรงเรียน (ตามแบบฟอร์ม สนง. ก.พ. 1)
(4) สำเนาทะเบียนบ้าน หรือสูติบัตร หรือสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน อย่างใดอย่างหนึ่ง จำนวน 1 ชุด
สำเนาเอกสารทุกฉบับให้เขียนรับรอง “สำเนาถูกต้อง” ลงชื่อ วันที่ ระบุเลขประจำตัวสอบ กำกับไว้ที่มุมด้านขวาของเอกสารทุกฉบับ และให้บรรจุเอกสารดังกล่าวในซองเอกสารขนาด A๔ เขียน ชื่อ – นามสกุล
เลขประจำตัวสอบไว้ที่หน้าซอง
4.4 ผู้สมัครสอบจะต้องตรวจสอบและรับรองตนเองว่ามีคุณสมบัติตรงตามประกาศรับสมัครสอบจริง เมื่อคณะกรรมการดำเนินการสอบแข่งขันได้ตรวจสอบคุณสมบัติจากเอกสารและหลักฐานแล้ว ถ้าปรากฏ
ภายหลังว่าผู้ใดมีคุณสมบัติไม่ตรงตามประกาศรับสมัครสอบจะถือว่าขาดคุณสมบัติทันที
4.5 ผู้สมัครสอบมีสิทธิสมัครได้คนละ 1 หน่วย
4.6 ในการสมัครสอบแข่งขันเพื่อรับทุน ฯ ประจำปี 2556 ผู้สมัครสอบสามารถสมัครสอบได้ ไม่เกิน 2 ประเภททุน ในแต่ละประเภททุนจะสมัครได้ประเภททุนละ 1 หน่วย
4.7 ผู้สมัครสอบไว้แล้ว จะขอถอนหรือขอเปลี่ยนหน่วยที่สมัครสอบไว้ไม่ได้ หากผู้สมัครสอบ ระบุชื่อประเภททุนและหน่วยทุนไม่ตรงกัน จะถือหน่วยทุนเป็นสำคัญ
4.8 ผู้พิการทางการมองเห็น ทางการได้ยินหรือการสื่อความหมาย ทางกายหรือการเคลื่อนไหว ตามกฎกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2537) สำนักงาน ก.พ. จะพยายามจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกให้ ในวันสอบตามที่แจ้งไว้ในใบสมัครสอบ

5. การแต่งตั้งกรรมการเกี่ยวกับการสอบ
5.1 ก.พ. แต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการสอบแข่งขันและคัดเลือกบุคคลเพื่อรับทุนเล่าเรียนหลวงและทุนรัฐบาล
5.2 ให้คณะกรรมการดำเนินการสอบแข่งขันและคัดเลือกฯ แต่งตั้งกรรมการออกข้อสอบประจำวิชาและกรรมการประเมินความเหมาะสมในการรับทุน
5.3 ให้คณะกรรมการดำเนินการสอบแข่งขันและคัดเลือกฯ กำหนดวัน เวลา สถานที่สอบ กำหนดระเบียบและวิธีการสอบ ตัดสินปัญหาเกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้สมัครสอบและปัญหาอื่นๆ ที่เกิดขึ้นในการดำเนินการสอบแข่งขันที่ไม่ขัดกับประกาศรับสมัคร ตลอดจนกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณาคัดเลือกบุคคลเพื่อรับทุนแทน  กรณีที่มีทุนที่ไม่มีผู้สมัคร หรือไม่มีผู้มีสิทธิได้รับทุน หรือมีผู้มีสิทธิได้รับทุนไม่ครบตามจำนวน
5.4 ให้คณะกรรมการดำเนินการสอบแข่งขันและคัดเลือกฯ ประกาศรายชื่อผู้สมัครสอบแข่งขัน  ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเข้ารับการประเมินความเหมาะสมในการรับทุน และประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับทุน โดยให้ประธานกรรมการดำเนินการสอบแข่งขันและคัดเลือกฯ หรือกรรมการที่ประธานมอบหมายเป็นผู้ประกาศให้ผู้สมัครสอบทราบ

6. หลักสูตรและวิธีการสอบแข่งขัน
รายละเอียดหลักสูตรและวิธีการสอบแข่งขันตามลิงค์ด้านล่างนี้

7. เกณฑ์การตัดสิน
7.1 ผู้มีสิทธิเข้ารับการประเมินความเหมาะสมในการรับทุน จะต้องเป็นผู้สอบได้คะแนนข้อเขียนดังนี้
– วิชาภาษาอังกฤษไม่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย (mean) ของผู้เข้าสอบทั้งหมดของทุกประเภททุนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย

– คะแนนรวมทุกวิชาตามหลักสูตรสูงสุดเรียงลงมาตามลำดับจำนวนไม่เกิน 5 เท่าต่อ 1 ทุน  ยกเว้น ทุนหน่วยใดมีจำนวน 2 – 4 ทุน ให้ผู้ที่ได้คะแนนรวมทุกวิชาตามหลักสูตรสูงสุดเรียงลงมาตามลำดับจำนวนไม่เกิน 3 เท่า ของจำนวนทุนในการสอบครั้งนี้ คณะกรรมการจะตรวจข้อสอบวิชาภาษาอังกฤษของผู้สมัครสอบทั้งหมดก่อน แล้วจึงตรวจข้อสอบวิชาอื่น ๆ เฉพาะผู้ที่ได้คะแนนวิชาภาษาอังกฤษไม่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย (mean) ของผู้เข้าสอบทั้งหมด
7.2 ผู้สอบแข่งขันได้ในแต่ละหน่วยจะต้องได้คะแนนประเมินความเหมาะสมในการรับทุนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70
7.3 ผู้สอบแข่งขันได้ที่ได้คะแนนข้อเขียน และคะแนนประเมินความเหมาะสมในการรับทุนรวมกันสูงสุดมีสิทธิได้รับทุนก่อนผู้ได้คะแนนรวมต่ำกว่าลงมาตามลำดับ ถ้าผู้สอบแข่งขันได้ได้คะแนนรวมเท่ากัน ให้ผู้ได้คะแนนประเมินความเหมาะสมในการรับทุนสูงกว่ามีสิทธิได้รับทุนก่อน ถ้าได้คะแนนประเมินความเหมาะสมในการรับทุนเท่ากัน ให้ผู้ได้คะแนนวิชาภาษาอังกฤษสูงกว่ามีสิทธิได้รับทุนก่อน ถ้าได้คะแนนวิชาภาษาอังกฤษเท่ากันอีกให้สัมภาษณ์ (เฉพาะผู้ได้คะแนนรวมเท่ากัน) เป็นภาษาอังกฤษอีกครั้งหนึ่ง และผู้ได้คะแนนสัมภาษณ์สูงกว่ามีสิทธิได้รับทุนก่อน
7.4 ผู้สอบแข่งขันได้ที่มีสิทธิได้รับทุนหลายประเภท จะได้รับทุนที่ได้เลือกไว้เป็นลำดับก่อนในใบสมัคร หรือใบแสดงความจำนงในการรับทุน และเมื่อมีสิทธิได้รับทุนประเภทใด หรือหน่วยใดแล้ว จะถือว่าสละสิทธิการรับทุนที่เหลือทั้งหมด
7.5 จะประกาศรายชื่อเฉพาะผู้มีสิทธิได้รับทุนเท่านั้น
7.6 ผู้มีสิทธิได้รับทุนรายใดไม่มารายงานตัวตามวัน เวลา และสถานที่ ที่สำนักงาน ก.พ.

กำหนดจะถือว่าสละสิทธิการรับทุน
7.7 ถ้าผู้มีสิทธิได้รับทุนสละสิทธิการรับทุน หรือถูกเพิกถอนการให้ทุน หรือไม่สามารถรับทุนได้หรือปรากฏภายหลังว่าขาดคุณสมบัติของผู้มีสิทธิสมัครสอบ ซึ่งยังอยู่ภายในระยะเวลา 3 เดือน นับแต่วันประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับทุน จะพิจารณาให้ผู้ที่สอบแข่งขันได้ที่อยู่ในลำดับถัดไปของทุนหน่วยนั้น และยังไม่ได้รับทุนใดในการสอบครั้งเดียวกันนี้ เป็นผู้มีสิทธิได้รับทุนแทน
7.8 กรณีทุนหน่วยใดไม่มีผู้สมัคร หรือไม่มีผู้มีสิทธิได้รับทุน หรือมีผู้มีสิทธิได้รับทุนไม่ครบตามจำนวนคณะกรรมการดำเนินการสอบแข่งขันและคัดเลือกฯ อาจพิจารณาให้ผู้สอบแข่งขันได้จากทุนหน่วยอื่นเป็นผู้มีสิทธิได้รับทุนแทน

8. การรายงานตัวและการอบรม
ผู้มีสิทธิได้รับทุนจะต้องไปรายงานตัวและเข้ารับการอบรมตามที่สำนักงาน ก.พ. และบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) กำหนด

สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://scholar2.ocsc.go.th/

Add a Comment